เรียงความเรื่อง “ มัสยิดกลางศาสนสถานคู่เมืองปัตตานี’’
เรียงความเรื่อง “ มัสยิดกลางศาสนสถานคู่เมืองปัตตานี’’ ( ฉบับที่2)
ผลัดถิ่นมาศึกษาอยู่ดินแดนปัตตานี ดารุสสาลามหรือที่ใครเค้ารู้จักกันในนาม ''ลังกาสุกะ''มาเกือบ4ปีเต็มแต่เมื่อถามตัวเองถึงสัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดปัตตานี จำต้องนึกถึงมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีที่เป็นจุดศูนย์รวมของอิสลามศาสนิกชนในพื้นที่และหากถามตัวเองว่ารู้จักกับมัสยิดแห่งนี้มากน้อยเพียงใด? กลับต้องตอบกับตัวเองว่ามีความรู้น้อยมากๆ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมัสยิด
แห่งนี้
มัสยิดกลางเมืองปัตตานีตั้งอยู่ที่ ถนนยะรัง ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ้งในปีพุทธศักราช 2947 รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวปัตตานีส่วนใหญ่ได้นับถืออย่างเคร่งครัดและประกอบกับในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามเป็นจำนวนมาก จึงสมควรที่จะสร้างมัสยิดกลางที่มีขนาดใหญ่และสวยงามขึ้นเพื่อเป็นมัสยิดกลางแก่ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศโดยมีคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการก่อสร้างมัสยิดกลางปัตตานีขึ้น
มัสยิดกลางปัตตานีส่วนใหญ่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ (ละหมาด) วันละ 5เวลาเป็นกิจวัตรประจำวันใช้ในการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาดในวันสำคัญต่างๆ โดยมีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ปัตตานี และพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์จะมีการบรรยายธรรมะมีผู้ เข้าฟังการบรรยาย ประมาณครั้งละ 3,000 คน เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในหลักการของศาสนาและเพื่อความถูกต้องในการบำเพ็ญศาสนกิจ
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีตั้งอยู่ที่ถนนยะรัง ตำบล อาเนาะรู อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวปัตตานีส่วน ใหญ่นับถืออย่างเคร่งครัดเป็นจำนวนมากจึสมควรที่จะสร้างมัสยิดกลางที่มีขนาดใหญ่เพื่อเป็นมัสยิดกลางแก่ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศตลอดจนเป็นสถานที่ที่ ประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบตรวจผลงานครั้งที่ ๑ ให้ ๒๕ คะแนน (คะแนนเต็ม ๓๐)
ตอบลบสิ่งที่ควรปรับปรุง
๑. ชื่อเรื่องได้ปรับใหม่และน่าสนใจมากขึ้นค่ะ
๒. เนื้อหาที่เพิ่มเติมยังไม่แตกต่างกับฉบับแรกเพราะยังมีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงมากกว่าความคิดเห็นของนักเรียนเอง
๓. ภาพประกอบควรปรับขนาดให้พอดี และจัดวางให้เหมาะสม
๔. ปรับปรุงเรื่องการใช้ภาษาควรเป็นภาษาที่เป็นสำนวนของนักเรียนเอง
รับทราบค่ะ
ตอบลบ