เรื่อง วิถีชีวิตของชาวนรา
การดำเนินชีวิตของคนในจังหวัดนราธิวาส และการประกอบอาชีพเป็นสิ่งสำคัญที่คนนราจะต้องทำเพื่อหาเลียงครอบครัวการดำเนินชีวิตของชาวนรา ไม่ว่าจะเป็นคนมุสลิมไทยพุทธก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข
วิถีชีวิตของคนนราแต่ดั้งเดิม เป็นชีวิตที่สงบเรียบง่าย เช่น ตอนเช้าตรู่ชาวส่วนจะตื้นตั้งแต่ตี 2-3 ออกมากรีดยาง ตอนย่ำรุ่งอากาศเย็นสบาย น้ำยางจะไหลออกมามาก เมื่อก่อนชาวสวนยางพาราจะใช้ตะเกียงแก๊สเพื่อจะกรีดยางตอนเช้ามืด แต่นั่นคือสมัยก่อน ส่วนปัจจุบันนี้ชาวบ้านมักจะใช้ไฟฉายที่ตั้งบนหน้าผากแต่ภูมิปัญญาชาวบ้านของสมัยก่อนในภาคใต้สิ่งดี ๆ เหล่านั้นกำลังเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสวัตถุนิยมของสังคมปัจจุบันชาวนรา ส่วนมากจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมคือ ทำนา ทำไร่ ทำสวน จับสัตว์น้ำและทำประมงชายฝั่งทะเล อาชีพประมงก็เป็นรายได้หลักของชาวเล คนที่อยู่ติดกับทะเล มักจะไปข้าขายไม่ว่าเป็นปลา หรืออื่น ๆ ที่จับได้จากท้องทะเล ยามว่างชาวนราชอบเลี้ยงนขา นกกรงหังจุก ไว้ฟังเสียงนกร้อง คนนราตอนเช้าคนเขาจะชักกรงนกขึ้นบนเสาสูงไห้นกเขาตากแดดชอบแขวนรังนกเพื่อไห้นกเขาอยู่อาศัยแขวนลูกลมกังหันลมไว้ฟังเสียงลมกังว่าวยาม ลมผัดและเล่นว่าวชนิดต่าง ๆ เมื่อลมมา ว่าวก็ขึ้นเมื่อน้ำหลากชาวบ้านก็จะไปดักจับปลาที่หนองน้ำ หรือลำคลองปลาจึงเป็นอาหารหลักของคนภาคใต้ สัตว์เลี้ยงก็เช่นกันคนนรามักจะเลี้ยงสัตว์ไว้ข้าง ๆ บ้านไม่ว่าจะเป็นเป็ด ไก่ แพะ วัว เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เพื่อเอาไข่ไปขาย หรือกินเอง ชาวบ้านที่มีที่ดินว่าง ๆ พวกเขาก็จะทำแปลงปลูกพืชผักสอนครัว เอาไว้กินเอง ทำไห้ประหยัดเงินในยามฝนตกพายุเข้า ชาวสวนยางพาราและชาวประมงก็ทำงานไม่ได้ ชาวสวนยางตอนเช้า ๆ เขาก็จะไปหาเห็ดป่า มาทำเมนูอาหาร เพื่อมารับประทาน ถ้าพายุเข้าชาวประมงก็ออกไปหาปลาไม่ได้เหมือนกัน ถ้าฤดูแล้งมา ชาวบ้านก็แห่ไปหากุ้ง หอย ปู ปลา ที่หนองหรือลำคลองก็เช่นกัน
ชาวนราอยู่อย่างสงบเรียบร้อยและอยู่อย่างพอเพียงโดยสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม้ในเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ชาวนราก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนที่เคยเป็นมา คือทำอาชีพทำสวน กรีดยาง และประมง ถือเป็นอาชีพที่สุจริต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น