เรียงความเรื่อง เมืองนราฯขวานทองใต้สุดแดนสยาม (ฉบับที่ 3 )

                                         
                                                            เรียงความ
                เรื่อง เมืองนราฯขวานทองใต้สุดแดนสยาม (ฉบับที่3)

                                                                                                                                                                

                                   สายลมโชยโบยพัดสะบัดพลิ้ว                       เย็นผ่านผิวแผ่นผ่อนดับร้อนหาย

                                ตะวันรอนอ่อนแรงแสงประกาย                                       ใกล้ลับหายจากฟ้าเวลาเย็น

                                เสียงคลื่นครวญเคลียคลอพะนอเคล้า                                    ดังยอกเย้าแกล้งซัดหาดทรายเล่น

                                ละอองพราวขาวผ่องฟองกระเซ็น                                    ดูสวยเด่นเป็นละลอกกระฉอกไป

กลอนข้างต้นนี้บรรยายถึงบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส  ซึ่งสถานที่ดังกล่าวคือ  หาดนราทัศน์นอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้วยังมีวิถีชีวิตและศิลปะวัฒนธรรมที่ล้ำค่าชวนให้หลงใหล

               ท้องทะเลสีครามอร่ามตาทอดไกลสุดขอบฟ้าอันสวยงาม ชายหาดนราทัศน์เป็นชายหาดที่กว้างขวาง มีทรายละเอียดสีขาวสะอาดที่สำคัญยังเป็นหาดที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสเพียง สอง กิโลเมตร   ชายหาดนราทัศน์อยู่ที่จังหวัดนราธิวาสซึ่งอยู่ใต้สุดแดนสยาม ตั้งอยู่ติดกับอ่าวไทยมีแม่น้ำสำคัญสามสาย  คือ   แม่น้ำบางนรา    แม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำสายบุรี      หาดนราทัศน์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เป็นจุดรวมของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้น  ทั้งบนเกาะ และในน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์มองเห็นได้ไกลสุดขอบฟ้า จรดกับปลายแหลมปากแม่น้ำบางนราทางทิศใต้นอกจากนี้ยังมีน้ำทะเลที่ใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำริมชายหาด  ชายหาดนี้ยังมีร้านอาหารที่เรียงรายอยู่หลายร้านใต้แนวสนที่ร่มรื่น  อีกทั้งยังมีลมพัดเย็นสบายบรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองนราธิวาสและนักท่องเที่ยวมี่มาเยือน


           วิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งมีความลึกลับและล้ำค่า ที่บรรพบุรุษของเราใช้อาชีพการทำประมงในการหล่อเลี้ยงชีวิตลูกหลานชาวประมงซึ่งเป็นชาวบ้านของหมู่บ้าน “ บาเละ ฮิเล ” ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่กระจัดกระจาย ตามริมแม่น้ำบางนรา เราชาวนราต่างได้รับการยอมรับว่าเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ” ตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า กินอยู่อย่างพอเพียง และเพียงพอ  ทำอาชีพที่สุจริต  นับว่าเป็นวิถีชีวิตที่มีมนเสน่ห์ควรเป็นแบบอย่างที่ดีและสมควรที่จะต้องรักษาไว้ เพื่อคนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป

      เรือกอและ ถือเป็นศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาวบ้านหมู่บ้าน บาเละ ฮิเล  ที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน เรือกอและที่จอดรอยลำอยู่ในลุ่มแม่น้ำบางนรา เป็นเรือประมงที่ใช้ออกหาสัตว์น้ำมีลักษณะหลากสี ดูสวยงาม นิยมทาสีฉูดฉาด เป็นลวดลาย อันวิจิตรที่เป็นลายไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีความงดงาม โดดเด่น เฉพาะของเรือ เรือกอและ หมายถึง เรือประมงที่ใช้ใบในการขับเคลื่อนมีรูปพรรณสัณฐานเพรียวลม ไม่ต้านลม แต่เป็นเรือที่อยู่ในอาการโคลงเคลงเมื่อลงในน้ำ เพราะมีลักษณะของท้องเรือที่อยู่ใต้น้ำ  กลม และกาบเรือจะผายออก จึงล่มยาก เมื่อถูกครื่นลมจะโคลงเคลงทันที ตัดกับสีครามของน้ำทะเล แสงที่สะท้อนน้ำ เปล่งประกายความงามและชวนให้หลงใหล  

               จังหวัดนราธิวาสยังมีสิ่งดีๆมากมายหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวไทยและชาวต่างชาติได้ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง  ทั้งยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่   ประเพณี  ศิลปวัฒนธรรม  สถานที่ท่องเที่ยวที่อยุ่ในใจชาวนราฯ เราทุกคน ต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้  เพื่อสืบทอดให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน และรุ่นต่อไป  เราต้องช่วยกันจะทำให้หาดนราทัศน์เป็นที่นิยมของบุคคลทั่วไป  ทั้งยังทำให้นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสหาดนราทัศน์เกิดความหลงใหลเพราะเกิดจากความงามของธรรมชาติ  ความร่มรื่น   อากาศก็ดีต้องมาที่นราธิวาส  สมดังคำขวัญที่ว่า " ทักษิณราชตำหนัก  ชนรักศาสนา  นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใ จ   แหล่งใหญ่แร่ทอง  ลองกองหอมหวาน "

              

อ้างอิง

http://www.tonkeian.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538672681&Ntype=76

http://pantip.com/topic/30596092

http://www.klongdigital.com/board/2747.html